บุคคลสำคัญในศตวรรษที่ 20

1. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ของไทย พระองค์ทรงเลิกทาส ปฏิรูปการศึกษา การบริหารแผ่นดินและวิถีชีวิตของประชาชนทุกด้านมีการติดต่อกับอารยประเทศ นำสยามประเทศสู่ยุคใหม่ ทรงเสด็จประพาสยุโรปเพื่อให้ไทยเป็นที่ยอมรับของชาวโลก ทรงผูกมิตรกับรัสเซียเพื่อคานอำนาจของอังกฤษกับฝรั่วเศสซึ่งได้มีความพยายามที่จะเข้ามามีอิทธิพลและต้องการได้ไทยเป็นเมืองข้นซึ่งประเทศไทยเราก็สามารถรักษาความเป็นเอกราชไว้ได้จนตราบเท่าทุกวันนี้ พระองค์ทรงได้รับสมญานามว่า "พระปิยะมหาราช" ของปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริง
2. อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เขาได้สมญานามว่าเป็น จอมเผด็จการนาซีเยอรมัน เขาเป็นผู้ก่อมหาสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นผู้สั่งฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิวนับล้าน ผู้คนสู้รบกันในสงครามโลกครั้งที่ 2 นี้ ต้องบาดเจ็บล้มตายมากมายมหาศาล อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ มีอุดมการณ์ ชาตินิยมขวาจัด และลัทธิเหยียดเชื้อชาติ ซึ่งมีอิทธิพลต่อมากับการกำเนิดกลุ่ม ฟาสซิสม์ใหม่ และ นาซีใหม่
3. วลาดิเมียร์ อิลยิช เลนิน เขาได้สมญานามว่าเป็นบิดาผู้ก่อตั้งสหภาพโซเวียตรัสเซีย ในศตวรรษที่ 20 เขาเป็นนักปฏิบัติคนแรกที่สามารถประยุกต์เอาทฤษฎีของคาร์ล มาร์กซ์ มาใช้ในทางการเมืองได้สำเร็จ เขาเป็นผู้นำพรรคบอลเซวิก ทำการโค่นล้มบัลลังก์ของพระเจ้าชาร์ นำประเทศสู่การปกครองแบบจักรวรรดิสังคมนิยมประเทศแรกของโลกและได้เผยแผ่อุดมการณ์คอมมิวนิสต์ไปทั่วโลก เขาเป็นต้นแบบให้กับนักปฏิบัติสงคมนิยมรุ่นหลัง ๆ เช่น เหมา เจ๋อ ตง และ เติ้ง เสี่ยว ผิง ผู้นำคอมมิวนิสต์จีน โฮจิมินท์ ผู้นำคอมมิวนิสต์เวียตนาม,เช กูวารา และฟิเดล คาสโตร แห่งประเทศคิวบา
4. มิคาอิล กอร์บาชอฟ เขาเป็นผู้นำคนสุดท้ายของโซเวียต เขาเป็นผู้ทำให้โซเวียตล่มสลาย และส่งผลกระทบไปยังค่ายคอมมิวนิสต์ทั่วโลก เพราะนโยบายเปิดกว้าง และปฏิรูปของเขา แต่เขาก็เป็นผู้ปิดฉากสงครามเย็นและยังช่วยรวมชาติเยอรมันซึ่งแยกเป็นตะวันตกและตะวันออกมานานเข้าด้วยกัน
5. เนลสัน มันเดลา เขาเป็นคนผิวดำที่ยิ่งใหญ่แห่งอาฟริกาใต้ที่ต่อสู้การเหยียดสีผิวเขาต้องติดคุกการเมืองนับไม่ถ้วน และได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีผิวดำคนแรกของอาฟริกาใต้
6. มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ เขาเป็นนักเทศน์ผิวดำชาวอเมริกัน เจ้าของวาทะที่ว่า "I have a dream" เขาเป็นผู้ประกาศว่า พระเจ้ามีผิวดำเขาเป็นผู้เรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมระหว่างคนผิวขาวและผิวดำในอเมริกา เขาเป็นผู้ทำลายข้อห้ามอันศักดิ์สิทธิ์ของคนผิวขาว เขาคือผู้จุดประกายสำนึกความรับผิดชอบในสังคมอเมริกา ทำให้คนผิวดำมีความเป็นคนเท่ากับคนผิวขาว แต่เขาก็ถูกลอบฆ่าสังหารอย่างเหี้ยมโหด
7. ตระกูลเคนเนดี้ ตระกูลเคนเนดี้มีบทบาททางการเมืองมาทุกยุคทุกสมัย จึงมีอิทธิพลและมีชื่อเสียงในสหรัฐอเมริกา แต่คนในตระกูลกลับทยอยกันเสียชีวิตเสมือนถูกพระเจ้าสาป ตั้งแต่ จอห์น เอฟ เคนเนดี้ ผู้เป็นประธานาธิบดีคนที่ 35 ของสหรัฐฯผู้นำโลกเสรีในยุคสงครามเย็นถึงขีดสุด เขาเป็นผู้นำอเมริกาเข้าสู่ยุคบุกเบิกอวกาศและคนอเมริกันรักมากที่สุดคนหนึ่งแต่เขากลับถูกลอบสังหาร คนต่อมาคือวุฒิรอเบิร์ต บ๊อบ เคนเนดี้ ถูกลอบยิง และจอห์น เอฟ เคนเนดี้ จูเนียร์ ลูกชายของ จอห์น เอฟ เคนเนดี้ก็เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางเครื่องบินเล็กตก เป็นต้น
8. จอห์น เมย์นาร์ด เคนส์ เขาเป็นนักเสรษฐศาสตร์ ชาวอังกฤษ เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นต้นแบบและตำนานของวงการนักเศรษฐศาสตร์ของโลก เขาเป็นเจ้าของทฤษฎีและหลักการการจัดงบประมาณ แบบขาดดุล ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐศาสตร์มหภาคของโลกด้วย
9. เธอะ บีทเทิลส์ เป็นวงดนตรีที่ทำการเขย่าวงการเพลงในยุคซิตี้ และเซเวนตี้ เรียกแบบไทย ๆ ว่า วงสี่เต่าทอง อันประกอบด้วยสี่หนุ่มจากเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ คือ จอห์น เลนอน,พอล แมคคาร์ทนีย์,จอร์จ แฮริสัน และริงโก สตาร์ส ด้วยบทเพลงรักอันหวานซึ้ง ทำนองเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยมนต์ขลังจนวัยรุ่นทั่วโลกคลั่งไคล้ วงดนตรีเธอะ บีทเทิลส์จึงเป็นผู้ปฏิบัติ และพลิกโฉมหน้าวงการดนตรีโลกอย่างแท้จริง
10. เจ้าหญิงไดอานา เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ.2524 เลดี้ไดอานาแห่งตระกูลสเปนเซอร์ได้เข้าพิธีอภิเษกสมรสกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งราชวงศ์อังกฤษ ด้วยความชื่นชมยินดีของเหล่าพสกนิกรทั่วโลก แต่หลังอภิเษกได้ไม่นาน ก็เกิดปัญหาภายในระหว่างทั้งสองพระองค์เกิดเป็นข่าวเรื่อยมา จนกระทั่งเจ้าหญิงไดอานาสิ้นพระชนม์จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ประชาชนทั่วโลกหลั่งน้ำตาให้กับเจ้าหญิงไดอานา
11. แม่ชีเทเรซา แม่พระของคนยาก แม่ชีเทเรซา ผู้ได้รับฉายาว่าเป็น "แม่พระของคนยาก" มีเชื้อสายแอลเบเนีย เกิดที่เมืองสโคปเจ ประเทศมาซิโดเนีย อดีตเป็นผู้นำองค์กร "มิชชันนารีเพื่อการกุศล (Missionary of Charity) แห่งเมืองกัลกัตตา อินเดีย แม่ชีเทเรซาได้อุทิศชีวิตเพื่อผู้ทุกข์ยาก ช่วยเหลือผู้ป่วย และผู้ด้อยโอกาส อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยจึงได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพในปี พ.ศ.2522 แม่ชีเทเรซาเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจวายเมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ.2540 มีอายุได้ 87 ปี